รีวิวเที่ยววัดร่องขุ่น (White Temple) ในแบบฉบับ Plant Delights

วันนี้จะพาเพื่อน ๆ บินลัดฟ้ามาสัมผัสอากาศหนาวเย็นที่จังหวัดเชียงราย

มาที่วัดร่องขุ่น ตำบลป่าอ้อดอนชัย จังหวัดเชียงราย ว่าแล้วก็ปักหมุดกันเลย ห่างจากเมืองประมาณสิบกิโลเมตรเท่านั้นค่ะ

📍วัดร่องขุ่น (White Temple)

เราเข้าจากทางด้านหลังของวัดร่องขุ่น ผ่านโรงปั้น แล้ววนขวาไปลานจอดรถ จอดรถเรียบร้อยแล้ว เดินเข้าวัดกันเลยค่ะ

เข้าคิววัดอุณหภูมิ และลงชื่อหรือแสกนเข้าวัด

แน่นอนยุคนี้จะต้องกดเจลล้างมือและวัดอุณหภูมิก่อนเข้าวัดนะคะ เพื่อความปลอดภัยของตัวเองและทุกคน

โต๊ะลงชื่อ หรือจะแสกนเช็กอิน

เลือกอย่างใดอย่างหนึ่งค่ะ ลงชื่อ เบอร์โทรศัพท์ และมาจากจังหวัดไหน มาหลายคน สามารถลงชื่อเพียงแค่หนึ่งคนได้ เข้าใจว่าเพื่อความรวดเร็วค่ะ

ลงขชื่อแล้ว ถัดมาทางด้านซ้ายเป็นจุดแสดงศิลปะภาพพิมพ์ (Printmaking) ซึ่งตอนนี้ปิดปรับปรุงชั่วคราวค่ะ

หอศิลป์แทนคุณ วัดร่องขุ่น

หันมาทางขวามือ จะเป็นหอศิลป์แทนคุณ เดินเข้าไปชมพร้อมกันนะคะ

มีป้ายบอก เชิญชมฟรี เป็นภาพครอบครัวอันอบอุ่นของท่านอาจารย์เฉลิมชัย ไม่รอช้า เข้าไปกันเลย

ภาพพิมพ์ โดยจิตรกร กนกวัลย์ โฆษิตพิพัฒน์

ก่อนเข้าไปชมนิทรรศการ จะมีจุดเคาเตอร์และมีพนักงานคอยอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับภาพต่าง ๆ ซึ่งเป็นภาพพิมพ์แบบที่มีและไม่มีลายเซ็นของจิตรกรท่านอาจารย์เฉลิมชัย จิตรกรกนกวัลย์ (ภรรยา) และ จิตรกรแทนคุณ (ลูกชาย) วางจำหน่าย

ภาพพิมพ์มีลายเซ็น โดยจิตรกร กนกวัลย์ โฆษิตพิพัฒน์

ชอบมาก เห็นแล้วต้องตาเลย ออกแนววินเทจเข้ายุคสมัยมาก ๆ ซึ่งแต่ละภาพก็จะมีชื่อเฉพาะของภาพนั้น ๆ ด้วยนะ

ของฝากต่าง ๆ ตามลายภาพของจิตรกร

มีผลิตภัณฑ์หลากหลายเข้ายุคสมัย เช่นหน้ากากอนามัยแบบผ้าที่มีลายภาพวาดของจิตรกร

ถัดมาจะเป็นกระเป๋า เสื้อ ชอปปิงได้ตามอัธยาศัย

ส่วนทางฝั่งนี้ เห็นเส้นภาพวาดแล้วก็คงเดาไม่ยากใช่มั้ยคะว่าเป็นของจิตรกรท่านใด ใช่แล้วค่ะ ของท่านอาจารย์เฉลิมชัยนั่นเอง แต่ก็ยังคงเป็นภาพพิมพ์นะคะ

ส่วนบนผนังนี้เป็นภาพวาดค่ะ ชื่นชมภาพวาดแล้วพาให้จินตนาการไปได้มากมาย คล้ายว่าแต่งเรื่องให้ภาพนั้นในใจด้วยตัวเอง เป็นกันมั้ยคะ ? 😆

ของฝากอีกมุมหนึ่ง

ฝั่งนี้ก็ด้วยค่ะ จะมีของฝากที่คล้ายกันแต่แตกต่างกันที่ลายของภาพวาด อุ๊ย แอบสะดุดตรงรูปปั้น ซูมเข้าใกล้ ๆ สักหน่อยค่ะ

แมงสี่หูห้าตา

อ้อ เคยอ่านจากรีวิววัดพระธาตุดอยเขาควายแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย (จำที่มาไม่ได้ ต้องขออภัยด้วยค่ะ) เป็นสัตว์ประหลาดตัวหนึ่งในตำนานของวัด ฯ คือ แมงสี่หูห้าตา ดูแวบแรกรูปลักษณ์คล้ายลิง ซึ่งอาจารย์เฉลิมชัยได้ออกแบบมาให้ถือพู่กันและจานสี ช่างเข้ากันจริง ๆ ค่ะ

ถัดจากส่วนนี้เข้าไปก็จะเป็รห้องแสดงภาพวาดจริงของจิตรกรทั้งสามท่านแล้วค่ะ ซึ่งห้ามถ่ายรูป และให้เดินชมอยู่นอกกรอบเส้นสีเทานะคะ เพลิดเพลินมาก ได้ชม ได้อ่านชื่อภาพวาดแล้วทำให้จินตนาการไปต่าง ๆ นานา

บางรูปก็มิติภาพแบบสามมิติ จนต้องเดินไปดูว่าด้านหลังมีอะไรหนุนรึเปล่า เพราะสายตาที่มองเห็นภาพนั้นมีมิติ สุดยอดเลยค่ะ ห้องไม่ใหญ่มาก แต่ใช้เวลาชื่นชมค่อนข้างนานทีเดียว ออกจากหอศิลป์ เราเดินออกมาเพื่อเข้าไปชมวัดกันค่ะ

เดินออกมา จะเห็นรูปปั้น สี่หูห้าตา ตั้งเด่นอยู่เลย แต่จะเห็นจากด้านข้างนะคะ

เดินผ่านมาแล้ว ก็หันไปถ่ายหน้าตรงอีกสักแชะ ใหญ่โตเลย อ้อ เขาห้ามขึ้นไปยืน หรือนั่งที่ฐานนั้นนะคะ

เดินมาจากทางด้านหลังวัด เราจะผ่านห้องน้ำที่อยู่ทางด้านขวามือ ออกแบบได้งดงามมาก ที่สำคัญสะอาดมากด้วยค่ะ เดินผ่านมาเรื่อย ๆ ก็จะเป็นจุดทางเข้า เข้าชมวัดร่องขุ่น ทางเข้าจะมีจุดจำหน่ายตั๋วสำหรับชาวต่างชาติเท่านั้น คนไทยเข้าฟรีนะคะ

วัดร่องขุ่น จังหวัดเชียงราย

ในรูปงดงามมากค่ะ แต่ไม่เท่ามองเห็นด้วยสายตา ขาวสะอาด ระยิบระยับเมื่อแสงแดดตกกระทบมาที่จุดตบแต่งด้วยกระจก

ภาพสะท้อนน้ำ

อีกมุมหนึ่งที่มีภาพสะท้อนลงมา งดงามมากเช่นกัน อดชักภาพไม่ได้ ขอสักหนึ่งแชะนะคะ อิอิ

ตรงทางเดินเข้าไปโบสถ์จุดนี้เป็นภาพที่เห็นจากรีวิวอยู่บ่อย ๆ มองแล้วก็เป็นเครื่องเตือนใจที่ดีนะคะ ว่ามั้ย ?

ถัดมาอีกนิดฝั่งเดียวกันค่ะ ถ้ามากลางคืนก็ให้ความรู้สึกน่ากลัวนะคะ บรึ๋ย

หันมาทางขวา ก็จะมีรูปมือปั้นแบบนี้เหมือนกัน แต่รายละเอียดก็จะแตกต่างกันไป เหมือนไม่มีอะไร แต่ยืนมองได้นานสองนานเลยค่ะ

แล้วเราเดินเข้าไปตามทาง เพื่อเข้าไปสักการะพระพุทธรูปในโบสถ์กันค่ะ ในโบสถ์นั้นจะมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่บนดอกบัวสีทอง งดงามมาก ๆ และที่ผนังนั้นมีภาพวาดที่เล่าเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับโลกียธรรมและโลกุตตรธรรม ซึ่งภาพวดนั้นมีรายละเอียดดีมากให้เราได้ตีความ เหมือนที่เคยได้ยินว่า ศิลปะมีชีวิต มันใช่เลยค่ะ

(หมายเหตุ ภายในโบสถ์ห้ามถ่ายรูปนะคะ)

ชมเสร็จแล้วเราก็เดินออกมาที่มาที่ทางออกด้านข้างของตัวโบสถ์ค่ะ ไม่สามารถเดินย้อนกลับไปทางที่เข้ามานะคะ

ทางเดินกลับไปทางหลังวัด จะมีจุดให้ทำบุญผ่านใบโพธิ์ถวายพระ (Lucky Bodhi Leaf) ราคาสามสิบบาท แล้วเราเอามาเขียนชื่อ แล้วไปแขวนห้อยที่ต้นใบโพธิ์เงินค่ะ

เรียงล้อมเป็นวงแต่ละชั้น ๆ สูงขึ้นไปเป็นพุ่มต้นไม้ งดงามไปอีกแบบนะคะ ตั้งอยู่ข้าง ๆ บ่อน้ำอธิษฐานจิต

และบนยอดของต้นโพธิ์จะมีงานศิลป์คล้ายลายกนกสีขาวงดงาม (อีกแล้ว) อยู่ด้วยค่ะ

เราก็เดินไปที่ซุ้มบ่อน้ำอธิษฐานจิตกันค่ะ แม้แต่ป้ายก็งดงาม เรียกว่าทุกรายละเอียดเลยจริง ๆ ค่ะ 

ตรงฐานซุ้มเป็นทรงกลม ที่พื้นมีเขียนปีนักษัตรทั้งสิบสองปี จุดทางที่ขึ้นนี้เจอปีมะเมียพอดีค่ะ

อีกจุดด้านหนึ่งก็จะเป็นปีระกา ใครเกิดปีไหนก็สามารถไปยืนจุดนั้นได้เลยก่อนอธิษฐานจิต

ตรงกลางซุ้ม จะมีบ่อน้ำเล็ก ๆ และตรงกลางที่ฐานบ่อมีรูปปั้นดอกบัว จุดขาว ๆ นั้นคือเหรียญที่ผู้เข้ามาเยี่ยมชมวัดโยนลงไปค่ะ ทางเราโยนไปเก้าเหรียญ และเล็งให้ลงด้านบนสุดของรูปปั้นดอกบัว ช่างยากเย็นค่ะ ฮา แต่ไม่เป็นไรค่ะ เพียงแค่ตั้งจิตธิษฐานแน่วแน่ และลงมือทำก็โอเค

เดินต่อมาจะเจอกุฏิเจ้าอาวาสนะคะ  มุมที่ถ่ายนี้คือเดินผ่านเลยมาแล้วหันกลับไป และด้านข้างมีศาลพระภูมิเจ้าที่ด้วยค่ะ เพิ่งเคยเห็นในรูปแบบที่ไม่เหมือนทั่ว ๆ ไป งดงามเช่นเคย

ถัดมาอีกนิด เป็นบริเวณลานหินขาว มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่อีกหนึ่งองค์ค่ะ แล้วเราก็เดินมาอีกเรื่อย ๆ ตรงใกล้บริเวณทางออก จะมีซุ้มที่นั่ง ใกล้ ๆ กันจะมีหิน มีน้ำตก และต้นโพธิ์ ร่มเย็นมาก ยังคุยกันว่าให้ความรู้สึกเหมือนป่าหิมพานต์ในตำนานพุทธประวัติตามจินตนาการที่เคยอ่านมาเลย 

เดินมาอีกหน่อย เห็นพระพุทธรูปอีกหนึ่งองค์ใต้ต้นโพธิ์ จุดนี้มีพรมปูพื้นให้ด้วย เพื่อให้สักการะค่ะ

วัดร่องขุ่น ครั้งนี้มาเป็นครั้งที่สอง วัดมีพื้นที่ขยายออกไปกว้างมากมายมหาศาลเลยค่ะ เป็นสัดส่วน เงียบสงบ งดงาม และสะอาดมาก ๆ เราใช้เวลาเยี่ยมชมวัดไปเกือบสามชั่วโมง เพราะมีหลายจุดที่เข้าไปชม แต่ละจุดก็ใช้เวลาพอสมควร

เพื่อน ๆ มีโอกาสไปเชียงราย แนะนำแวะไปเที่ยววัดร่องขุ่น ซึ่งถูกสร้างขึ้นโดยท่านอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ผู้ซึ่งเป็นศิลปินแห่งชาติ

และเชื่อว่าเพื่อน ๆ จะหลงใหลและรักงานศิลปะเพิ่มขึ้นไม่มากก็น้อยค่ะ

ตรวจสอบข้อมูลที่พักและจองตั๋วเครื่องบินได้ที่

👉 Booking.com

👉 Traveloka | เที่ยว & ไลฟ์สไตล์ในแอฟเดียว

Plant Delights - ความสุขของคนกินพืช